การเลือกหัวน้ำพุ
ก่อนอื่นเราต้องทราบว่า มีรูปแบบของน้ำพุอย่างไรบ้าง
หัวน้ำพุขนาด 4 หุน
ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้หัวน้ำพุขนาดนี้ ไว้ตกแต่ง อ่างขนาดเล็ก หรืออ่างบัวที่วางประดับไว้หน้าบ้าน หรือตามมุมห้อง เหมาะสำหรับตกแต่งภายในอาคารให้มีเสียงน้ำไหล เสริมบรรยากาศ
ความเป็นธรรมชาติ
การเลือกหัวน้ำพุ และงบประมาณ
น้ำพุ
เกี่ยวกับน้ำพุ
น้ำพุ คือน้ำที่พุ่งมาจากผิวน้ำ เราจึงเรียกว่า น้ำผุด หรือน้ำพุ น้ำผุดคือน้ำที่พุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำเพียงเล็กน้อย ส่วนน้ำที่พุ่งขึ้นมาเป็นลำประมาณ 10 ซ.ม.เราเรียกว่า “น้ำพุ”
น้ำพุ ที่เราๆท่านๆ รู้จักกันดี คือน้ำพุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เรียกว่า “น้ำพุร้อน”หรือ “น้ำพุธรรมชาติ”ส่วนน้ำพุที่มนุษย์สร้างขึ้นเรา เรียกว่า “น้ำพุประดิษฐ์”
น้ำพุธรรมชาติ
น้ำพุร้อน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีน้ำร้อนไหลขึ้นมาจากใต้ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในโลกยังคงมีความร้อนอยู่ ปัจจุบัน พบแหล่งน้ำพุร้อน 112 แหล่ง กระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ วัดอุณหภูมิน้ำร้อนที่ผิวดินอยู่ในช่วง 40 – 100 องศาเซลเซียส โดยทั่วไป เรารู้จักน้ำพุร้อนเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามหัศจรรย์ แต่น้ำพุร้อนยังสามารถนำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น การผลิตกระแสไฟฟ้า ด้านอุตสาหกรรม และการเกษตรกรรมอีกด้วย
น้ำพุประดิษฐ์
น้ำพุที่เรากำลังจะกล่าวถึงคือ น้ำพุประดิษฐ์ ที่เกิดจากเครื่องปั๊มน้ำพ่นผ่าน หัวน้ำพุ ที่พุ่งขึ้นไปในอากาศ ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของหัวน้ำพุ เราจึงนิยมนำมาตกแต่งบ้าน และสวน ช่วยเสริมบรรยากาศให้เป็นธรรมชาติ และสร้างจุดสนใจให้กับสถานที่นั้นๆ เช่น ตามอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ก็นิยมนำมาตกแต่งเพื่อดึงดูดสายตาผู้คน ช่วยเสริมบารมี บางแห่งก็สร้างเพื่อเสริมฮวงจุ้ย ตามคำแนะนำของซินแส บางแห่งก็สร้างขึ้นเพื่อต้องการเติมระบบนิเวศเข้าไปในสระน้ำ แถมยังได้บรรยากาศและเสริมจุดเด่นอีกด้วย
ประเภทของน้ำพุ
น้ำพุที่เรามาประดับตกแต่งนั้น มีอยู่ 2 ประเภทคือ น้ำพุ In door และน้ำพุ Out door. น้ำพุ In door คือ น้ำพุ ขนาดเล็กที่นิยมนำมาตกแต่งภายในอาคาร บ้านเรือน เช่น น้ำพุอ่างบัว และน้ำพุที่ต้องการเสียงน้ำไหล เป็นการเสริมบรรยากาศในบ้าน ส่วนมากแล้ว สามารถติดได้เกือบทุกแบบ ที่ไม่ใหญ่เกินกว่าขนาดบ่อหรืออ่าง ที่จะทำให้ไม่กระเด็นเปียกพื้นเลอะเทอะ.
ส่วนน้ำพุ Out door จะเป็นน้ำพุที่ติดตั้งตามหน้าอาคาร และสระน้ำขนาดใหญ่ ที่สามารถทรงรูปน้ำพุ ในสภาพที่มีลมแรงได้ดี
การเลือกแบบน้ำพุ และตำแหน่งที่ตั้ง
การเลือกแบบน้ำพุ ให้เริ่มต้นจากเลือกประเภทก่อน จึงมากำหนดสถานที่ , ภาชนะ และแบบที่ต้องการ เมื่อเลือกแบบน้ำพุ แล้วจึงมาเลือกปั๊ม ว่าจะใช้ขนาดไหน กี่Watt ที่จะไม่กระเด็นออกนอกภาชนะ และรูปทรงที่เหมาะกับสถานที่ สำหรับท่านที่ต้องการกำหนดตามฮวงจุ้ย ให้ท่านยืนที่หน้าบ้าน แล้วหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน จุดฮวงจุ้ย จะอยู่ทางซ้ายมือของท่าน เป็นจุดเคลื่อนไหว เมื่อทำแล้วจะมีเงินทองไหลมาเทมา และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ควรปรึกษากับช่างน้ำพุที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ว่าจะสร้างบ่อน้ำพุ ควรมีรูปร่าง ,โครงสร้าง ,ระบบท่อ,ระบบไฟ และระบบกรอง อย่างไร
ระบบกรอง
เพื่อความใสสะอาดของน้ำพุที่พุ่งขึ้นมา ดูสดใสอยู่ตลอดเวลานั้น จึงต้องมีระบบกรอง แต่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าจะเลี้ยงปลาหรือไม่ ถ้าในบ่อน้ำพุ เลี้ยงปลาด้วย ให้ออกแบบระบบกรองที่มีระบบนิเวศในตัว ซึ่งใช้พื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของบ่อปลา และต้องเลือกหัวน้ำพุที่ไม่อุดตันง่าย ต้องออกแบบโครงสร้างและเดินระบบท่อไว้ตั้งแต่แรกเลย แต่ถ้าในบ่อมีแต่บ่อน้ำพุไม่ได้เลี้ยงปลา ก็ให้ติดตั้งระบบกรองแบบเดียวกับสระว่ายน้ำ คือเป็นถังกรองทรายสำเร็จรูป และเติมคลอรีนเป็นประจำ น้ำที่พุขึ้นมาก็จะใสสระอาดและทรงรูปอยู่ตลอดเวลา
การดูแลและบำรุงรักษา
เมื่อเราติดตั้งระบบกรองแล้ว การดูแลรักษาก็ง่ายขึ้น คอยดูว่าน้ำพุที่พุ่งขึ้นมานั้นเหมือนเดิมและเท่าเดิมหรือเปล่า ถ้าเบาลง แสดงว่า มีเศษวัตถุอะไรหรือเศษใบไม้ไปติดที่ใบพัดของปั๊ม ต้องรีบแก้ไข ทันที เพราะนานไปปั๊มอาจจะเสียได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็สะดวกขึ้นมาก เพราะมีร้านที่เขาให้บริการดูแลเป็นรายเดือน รายปี
การเลือกซื้อน้ำพุ และงบประมาณ
ควรหาซื้อจากร้านที่เขามี Catalog และมีคำแนะนำที่ดี โดยผู้เชี่ยวชาญ ถ้าสามารถทดสอบได้ ก็ให้เขาทำให้ดู จะได้รู้ว่าตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ แล้วให้เขาประมาณราคาให้ดูก่อนตัดสินใจซื้อ